Museum of Contemporary Art - MOCA
พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย สถานที่เก็บบันทึกรวบรวมประวัติศาสตร์ทางศิลปะไทย โดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
และแล้วบ้านเราก็เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน หากยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี ฉบับนี้ขอแนะนำสถานที่ที่จะทำให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย ผ่อนคลายท่ามกลางผลงานศิลปะที่ MOCA BANGKOK
พิพิธภัณฑ์ที่เก็บบันทึกรวบรวมประวัติศาสตร์ทางศิลปะไทยที่น่าสนใจ เกิดขึ้นจากรากฐานทางวัฒนธรรมอันยาวนานและองค์ความรู้ทางศิลปะแบบสากล โดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประติมากรชาวเมืองฟลอเรนช์ ประเทศอิตาลี อันก่อให้เกิดเป็นงานศิลปะไทยร่วมสมัยที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติว่าประเทศไทยเป็นชาติที่มีอารยะ
งานศิลปะที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ในขณะนี้เป็นผลงานทัศนศิลป์จากศิลปินหลายรุ่น ซึ่งทุก ๆ ผลงานถือเป็นงานระดับชั้นครู จะยืนหยัดได้ถึงความมุ่งมั่นของศิลปินไทย ในการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ไทยอย่างเหนียวแน่น
พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเชิดชูเกียรติแด่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะไทยร่วมสมัย
เดินเข้าไปห้องแรกแบ่งเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการเชิดชูเกียรติ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นห้องที่มีโถงสูงมากให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ สวยงามเกินจะบรรยาย และมีรูปปั้นศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และมีคำจารึกสลักบนผนังสูงว่า “Ars Longa, vita brevis ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” ซึ่งเป็นคำที่ท่านเคยพูดเอาไว้เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับแสงแดดที่ลอดผ่านช่องเพดานด้านบนที่ตกกระทบกับพื้นหินอ่อนด้านล่างเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามน่าประทับใจมาก
จากนั้นจึงเดินชมภาพศิลปะและผลงานไล่ไปทีละชั้น เพื่อเสพผลงานภาพเขียนและประติมากรรมหลาย ๆ ชิ้น ซึ่งล้วนเป็นฝีมือของศิลปินไทยชั้นครูที่หาชมได้ยาก เช่นห้องแสดงผลงานแนวศิลปะไทยประยุกต์ อันประกอบด้วยเรื่องราวทางสังคมวิทยา และพุทธปรัชญา ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินอาวุโส หลายท่าน อาทิ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และห้องแสดงผลงาน “ศิลปะเชิงความคิดฝันและจินตนาการ” นอกจากนี้ ยังมีห้องนิทรรศการขุนช้าง-ขุนแผน ผลงานของเหม เวชกร และ สุขี สมเงิน ในชั้นที่ 4 จัดแสดงผลงานอันหลากหลายของศิลปินเอกแห่งยุคสมัย คือ ถวัลย์ ดัชนี ห้องแดงและห้องดำ ที่เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนเข้ามา ต้องรู้สึกถึงพลังงานแห่งความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมาทางจินตนาการ
จากนั้นเดินมาเจอสะพานข้ามจักรวาล ที่จะเป็นอุโมงค์ที่มืดมิดแต่ประดับไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ ก่อนจะเจอประตูแห่งแสงสว่างไปสู่ห้องไตรภูมิ กับภาพเขียนขนาดใหญ่มหึมา สูง 7 เมตร จำนวน 3 ภาพ บอกกล่าวเรื่องราวของโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกนรก ให้เรานั่งนึกคิดพิจารณาความหมายในภาพเขียนซึ่งซ่อนเรื่องราวแล้วแต่บุคคลจะตีความ และสุดท้ายหลังจากชื่นชมผลงานจากศิลปินไทยแล้วชั้นสุดท้าย ชั้น 5 นำเสนอนิทรรศการศิลปะนานาชาติร่วมสมัยจากหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งศิลปะแนวโรแมนติกยุควิคตอเรียนที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งหาชมได้ยากในประเทศไทย เมื่อย้อนกลับมาดูผลงานศิลปินบ้านเราทำให้อดภูมิใจไม่ได้ว่าผลงานของศิลปินไทย สวยงามมีเอกลักษณ์ไม่แพ้ชาติใดในโลก
เดินมาจนครบ 5 ชั้น ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพลินไปเรื่อยรู้ตัวอีกทีเริ่มเมื่อยเท้า จึงลงมานั่งพักที่ร้านกาแฟ นั่งจิบกาแฟ... ปล่อยวางความรู้สึก... ก่อนที่เราจะกลับมาดำเนินชีวิตต่อไป...